top of page

โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ

๑.ราชสีห์กับหนู


        มีราชสีห์ตัวหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่ มีหนูตัวหนึ่งวิ่งขึ้นไปบนหน้าทำให้ราชสีห์ตกใจตื่นและลุกขึ้นมาด้วยความโกรธพร้อมกับจับหนูไว้ได้และจะฆ่าเสีย แต่เจ้าหนูได้อ้อนวอนขอชีวิตไว้แล้วจะตอบแทนคุณในภายหลัง ราชสีห์หัวเราะแล้วก็ปล่อยเจ้าหนูตัวนั้นไป ต่อมาราชสีห์ถูกนายพรานจับมัดไว้ด้วยเชือกหลายเส้นส่งเสียงร้องดัง จนเจ้าหนูนั้นได้ยินมันจึงมาช่วยกัดเชือกจนขาดช่วยชีวิตราชสีห์ไว้ได้

       นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าประมาทผู้ที่ต่ำต้อยด้อยกว่า เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าเราจะประสบเคราะห์หามยามร้ายเมื่อไร หากคนพวกนี้มาพบเห็นเราขณะมีภัย คงจะมีผู้ที่ระลึกถึงคุณของเราและให้ความช่วยเหลือเราบ้าง

 

๒. บิดากับบุตรทั้งหลาย

        กล่าวถึงชายผู้หนึ่งมีบุตรหลายคน บุตรเหล่านั้นทะเลาะกันมิได้ขาด ผู้เป็นบิดาจะตักเตือนอย่างไรพวกเขาก็ไม่ฟัง ผู้เป็นบิดาจึงหาทางแก้ไขด้วยการสั่งให้บุตรทั้งหลายหาไม้เรียวให้กำหนึ่ง แล้วให้บุตรนั้นหักให้เป็นท่อนเล็กๆแต่พวกบุตรก็ไม่มีใครสามารถหักได้เลยสักคน ผู้เป็นบิดาจึงแก้มัดไม้เรียวกำนั้นออก แล้วส่งให้บุตรหักทีละอัน ปรากฏว่าทุกคนหักได้โดยง่าย ผู้เป็นบิดาจึงสอนบุตรว่า “ หากพวกเจ้ามีความสามัคคีกันรักกันดุจไม้เรียวกำนี้ก็จะไม่มีใครมาทำร้ายพวกเจ้าได้ แต่ถ้าพวกเจ้าต่างคนต่างแตกแยกทะเลาะวิวาทกันเช่นนี้ก็จะมีภัยอันตรายได้ ก็จะเป็นประดุจไม้เรียวทีละอันที่ถูกทำลายได้โดยง่าย”

       นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากคนเรามีความรักความสามัคคีแล้วจะไม่มีภัยอันตรายใดๆมาเบียดเบียนได้เลย


๓. สุนัขป่ากับลูกแกะ
        

 กล่าวถึงสุนัขป่าตัวหนึ่งมาพบลูกแกะหลงฝูงตัวหนึ่ง มันคิดจะกินลูกแกะเป็นอาหาร จึงได้ออกอุบายกล่าวโทษเจ้าลูกแกะต่างๆนานา เพื่อให้ลูกแกะเห็นว่าตนมีความผิดจริงสมควรที่จะให้สุนัขป่าจับกินเป็นอาหาร แต่ลูกแกะก็ไม่ยอมรับ ในที่สุดด้วยความเป็นพาลเจ้าสุนัขป่าก็จับลูกแกะกินจนได้

        นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าได้คาดหวังว่าจะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากคนที่มีนิสัยชั่วร้าย


๔. กระต่ายกับเต่า

        กล่าวถึงกระต่ายตัวหนึ่งหัวเราะเยาะเต่าที่เท้าสั้นเดินช้า เต่าจึงท้ากระต่ายวิ่งแข่งกัน โดยให้สุนัขจิ้งจอกเป็นผู้เลือกทาง และกำหนดที่แพ้ชนะให้ พอถึงวันกำหนด ทั้งเต่าและกระต่ายก็ออกเดิน เริ่มต้นที่จุดเดียวกัน กระต่ายนั้นเชื่อมั่นว่าตนขายาวและวิ่งเร็วกว่าจึงเผลอพักหลับไป ครั้นพอตื่นขึ้นมาวิ่งไปโดยเร็ว พอถึงเส้นชัยก็เห็นว่าเต่าอยู่ที่นั่นก่อนนานแล้ว

      นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าประมาทผู้อื่นและเชื่อมั่นในตนเองเกินไปนัก เพราะอาจจะมีโอกาสเพลี่ยงพล้ำจนได้รับความอับอายได้

 

ข้อคิดที่ได้

๑. นิทานมักสะท้อนความคิดของคนในยุคต่างๆได้เป็นอย่างดี
๒. คุณธรรมที่ปรากฏในนิทานจะเป็นอุทาหรณ์ทำให้คนอยากทำแต่คุณงามความดีเสมอ
๓. นิทานเป็นเรื่องเล่าที่มีคติสอนใจทำให้ผู้อ่านเกิดวิจารณญาณในการคิดและนำไปปฏิบัติได้
๔. การอ่านวรรณคดีที่แฝงไว้ซึ่งปรัชญาชีวิตนั้น สามารถทำให้คนมีความสุข สงบ และแก้ไขปัญหาต่างๆได้

bottom of page