top of page

การเลือกตั้ง ปี2562

การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย

 

1. ความหมายของการเลือกตั้ง

 

          การเลือกตั้ง คือ การที่ราษฎรใช้สิทธิของตนเองลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทน เพื่อทํา หน้าที่แทนตนในการปกครองแต่ละระดับของประเทศ เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด เป็นต้น

              การเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยนั้นต้องเป็นการเลือกตั้งโดยเสรี

กล่าว คือต้องเปิดกว้างให้อิสระในการตัดสินใจทั้งในแง่ของผู้สมัครและผู้ออกเสียง ทั้งนี้ต้องเป็นไปโดยบริสุทธิ์และยุติธรรมไม่มีการชี้นําหรือบังคับให้เลือก

 

2. ความสําคัญของการเลือกตั้ง

 

 

            ประชาชน เป็นผู้มีอํานาจในการปกครองประเทศแต่ในสภาพสังคมปัจจุบันยอมเป็นไปไม่ได้ที่ ประชาชนทุกคนจะทําหน้าที่ปกครองประเทศพร้อมๆกัน จึงมีความจําเป็นต้องเลือกผู้แทนของตนเข้าไปทําหน้าที่แทนตน และประชาชนสามารถเปลี่ยนผู้แทนซึ่งใช้อํานาจแทนตนได้โดยเลือกผู้ที่ตนเห็น ว่าประโยชน์แก่ส่วนรวมตามแนวทางที่ตนต้องการโดยพิจารณาจากนโยบายของผู้สมัคร หรือพรรคของผู้สมัคร

 

3. การเลือกตั้งผู้แทนในระดับต่าง ๆ

 

           การเลือกตั้งในประเทศไทยมีหลายระดับตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน กล่าวคือ

3.1  ระดับหมู่บ้าน คือ การเลือกผู้ใหญ่บ้านกรรมการหมู่บ้านและสมาชิกสภาท้องถิ่น

3.2  ระดับตําบล  คือกํานันผู้บริหารท้องถิ่น

3.3  ระดับอําเภอ คือสมาชิกสภาเทศบาลและสมาชิกสภาเมืองพัทยา

 

3.4  ระดับจังหวัด คือ สมาชิกสภาจังหวัด และการเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ซึ่งไดแก่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร การเลือกตั้งสมาชิกสภา กทม. และการเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต

3.5 ระดับชาติ คือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา

 

4. คุณสมบัติของผู้มี สิทธิเลือกตั้งและผู้สมัครรับเลือกตั้ง

 

 

  4.1 คุณสมบัติผู้มี สิทธิเลือกตั้ง สส. สว.

        4.1.1 มีสัญชาติไทย แต่บุคคลที่มีสัญชาติไทย โดยการเปลี่ยนแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี

       4.1.2 มีอายุไม่ตํ่ากว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง

       4.1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง

 

4.2 คุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น

 

      4.2.1 มีสัญชาติไทยแต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี

     4.2.2 มีอายุไม่ตํ่ากว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคมของปีที่มีการเลือกตั้ง

     4.2.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันเลือกตั้ง

 

     4.2.4 คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองกําหนด

         ในกรณีที่มีการย้ายทะเบียนบ้านออกจากเขตเลือกตั้งหนึ่งไปยังอีกเขตเลือกตั้ง หนึ่งภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันอันทําให้บุคคลมีชื่ออยู่ใน ทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันน้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันเลือก ตั้งให้บุคคลนั้นมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ตนมีชื่อ อยู่ในทะเบียนบ้านครั้งสุดท้ายเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปี

 

  4.3 คุณสมบัติผูมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สส.

            4.3.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

 

       4.3.2 มีอายุไมตํ่ากว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง

 

       4.3.3 สําเร็จการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าเว้นแต่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา

 

       4.3.4 เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน

 

       4.3.5 ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ด้วย คือ

 

       (1) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับสมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง

 

       (2) เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดนั้น

 

       (3) เป็นบุคคลที่เกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง

 

       (4) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปีการศึกษา 

 

       (5) เคยรับราชการหรือเคยมีชื่อยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี

 

  4.4 คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง สว.

 

     4.4.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

 

     4.4.2 มีอายุไม่ตํ่ากว่า 40  ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง

 

     4.4.3 สําเร็จการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเทา

 

     4.4.4 มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 107 (5)

 

  4.5 คุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น

 

     4.5.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

 

     4.5.2 มีอายุไม่ตํ่ากว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้งการเสริมสร้างความ รู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนในองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น

 

     4.5.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง

 

     4.5.4 คุณสมบัติอื่นที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกําหนด

 

 4.6 คุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น

 

     4.6.1 กรณีนายกองค์การบริหารสวนจังหวัด

 

  (1) มีอายุไม่ตํ่ากว่าสามสิบปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง

 

  (2) สําเร็จ การศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดผู้บริหาร ท้องถิ่นหรือสมาชิกรัฐสภา

 

  (3) ไม่ เป็นผู้พ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นคณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหาร ท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการหรือที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น  เพราะ เหตุมีส่วนได้เสียไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระ ทํากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังไม่ถึงห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง

 

     4.6.2 นายกเทศมนตรี

 

   (1) มีอายุไม่ตํ่ากว่าสามสิบปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง

 

   (2) สําเร็จการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา

 

   (3) ไม่เป็นผู้พ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นรองผู้บริหารท้อง ถิ่น หรือที่ปรึกษาหรือเลขานุการของผู้บริหารท้องถิ่น เพราะเหตุมีส่วนได้เสียไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาที่กระทํากับองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ยังไม่ถึงห้าปีนับถึงวันรับสมัครเลือกตั้ง

 

   (4) เคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งถูกให้พ้นจากตําแหน่ง  เนื่องจากกระทําการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

 

    4.6.3  นายกองค์การบริหารส่วนตําบล

 

   (1) มีอายุไม่ตํ่ากว่าสามสิบปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง

 

   (2) สําเร็จการศึกษาไม่ตํ่ากว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าหรือเคย

เป็นสมาชิกสภาตําบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา

 

   (3) ไม่เป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริตหรือพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาตําบล สมาชิกสภาท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น  รอง ผู้บริหารท้องถิ่นหรือเลขานุการ หรือที่ปรึกษาของผู้บริหารท้องถิ่นเพราะเหตุที่มีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทาง ตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทํากับองค์กรปกครองส่วน

 

ท้องถิ่นยังไม่ถึงห้าปนับถึงวันรับสมัครเลือกตั้งวิธีการเลือกตั้งในระดับหมู่บ้านอาจทําได้ทั้งวิธีลงคะแนนลับและเปิดเผย   การ เลือกตั้งในระดับอื่นๆจะใช้วิธีลับ ซึ่งมีขั้นตอนสําคัญ คือ จะต้องมีการตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหน ด หากไม่มีชื่อหรือชื่อผิดพลาด หรือมีชื่อบุคคลที่ไม่รู้จักในบ้านของตนก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดําเนินการให้ ถูกต้องที่สําคัญบัตรประจําตัวประชาชนต้องเก็บไว้กับตัวอย่าให้ใครยืมหรือ ทําหายเป็นอันขาดการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วม ของประชาชนในองค์

5. การใช้ดุลพินิจในการเลือกตั้ง

 

1) ในการเลือกตั้งต้องคอยติดตามประวัติและข่าวคราวเกี่ยวกับผู้สมัครอยู่เสมอ 

 

2) ตรวจดูว่ามีสิทธิ์เลือกผู้แทนได้กี่คน 

 

3) จําหมายเลขผู้สมัครที่ต้องการเลือกให้ได้เมื่อรับบัตรเลือกตั้งแล้วเดินเข้าคูหา 

 

4) ทําเครื่องหมาย X (กากบาท) ในช่องทําเครื่องหมายในบัตรเลือกตั้งให้ตรงเครื่องหมาย(หมายเลข) ของผู้สมัคร 

 

5) พับ บัตรเลือกตั้งให้กรรมการหย่อนลงในหีบบัตรต่อหน้าตนเองข้อสําคัญต้องเลือกคน ที่มีความจริงใจและเสียสละเพื่อส่วนรวมมีความรู้ความสามารถและมีอาชีพ สุจริตเป็นหลักเป็นแหล่งแน่นอนไม่ควรเลือกผู้ที่มีเบื้องหลังไม่สุจริต และซื้อขายเสียง

 

 

 

 

 

 

6. ผลเสียของการซื้อขายเสียง

 

          สํา หรับการซื้อขายเสียง นับเป็นอันตรายอย่างยิ่งของการเลือกตั้งในทุกระดับ เพราะไม่ได้หวังที่จะเข้ามาเพื่อช่วยสังคมส่วนรวมอย่างจริงใจเป็นเพียงทาง ผ่านและผลประโยชน์ของตนหรือเข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ตามวิถีทางของเขาโดยไม่สนใจผลประโยชน์ของชาติและประชาชนคนเหล่านี้จะไม่เห็นใครสําคัญกว่าตนเอง และประโยชน์ของตน  ซึ่งไม่ควรจะให้มีโอกาสเขาจัดการผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างเด็ดขาด

 

7. การป้องกันการซื้อขายเสียง

 

        หน ทางป้องกันการซื้อขายเสียงก็อยู่ที่ประชาชนที่จะต้องคํานึงอยู่เสมอว่าอํานา จของประชาชนเป็นอํานาจศักดิ์สิทธิ์จะซื้อขายกันไม่ได้และช่วยกันโดย

 

  7.1 ไม่รับเงินหรือสิ่งแลกเปลี่ยน

 

  7.2 ต่อต้านการซื้อเสียงทุกชนิดในการเลือกตั้งทุกระดับ

 

  7.3 ถ้าพบเห็นการซื้อขายเสียงให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีและช่วยเป็นพยานให้กับทางเจ้าหน้าที่

 

  7.4 แนะนําคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านให้เห็นภัยของการซื้อขายเสียงและ

รวมกันรณรงค์ต่อต้าน

 

  7.5 ชักชวนกันไปใช้สิทธิให้มาก ๆ

 

8. การรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

 

        การ รณรงค์ให้ประชาชนเลือกตั้งให้ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะช่วยสังคม โดยชี้ให้เห็นความสําคัญของการเลือกตั้งแต่การรณรงค์ไม่จําเป็นต้อง รณรงค์เฉพาะช่วงที่จะมีการเลือกตั้งเท่านั้น แต่สามารถทําได้ในทุกโอกาส เช่น 

 

1) การติดตามข่าวสารของผู้แทนมาเผยแพร่แก่ประชาชน 

 

2) การติดตามพฤติกรรมแนวความคิด และการตัดสินใจของผู้แทนที่มีต่อนโยบายสาธารณะมาเผยแพร่ 

 

3) การจับกลุ่มสนทนาปัญหาของบ้านเมือง การเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกั ประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

 

4) ชม/ฟัง การถ่ายทอดเสียงการประชุมสภาฯ สิ่งเหล่านี้จะทําให้ประชาชนรู้สึกว่าเรื่องการเลือกตั้งเป็นสิ่งใกล้ตัว มีผลกระทบกับประชาชนโดยตรง

 

9. ประชาชนควรทําอย่างไรเมื่อมีการเลือกตั้ง

 

         การ ใช้ดุลพินิจในการเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งสําคัญเราคงจะเลือกโดยเห็นแก่พรรคพวก หรือเกรงใจเพราะเป็นคนรู้จักกันหรือมีคนมาขอร้องให้เลือกไม่ได้อีกแล้ว  และโดยเฉพาะการเลือกตั้งที่เห็นแก่อามิสสินจ้างเป็นการกระทําที่เลวร้าย ประชาชนจึงควรพิจารณาให้ถ่องแท้โดย

 

  9.1 พิจารณานโยบาย/จุดยืนของพรรคว่าเป็นไปตามแนวทางที่เราต้องการหรือไม่

 

  9.2  พิจารณาตัวบุคคลผู้สมัครโดยดูประวัติความเป็นมาว่าเป็นคนดีมีจุดยืนเคียงข้างประชาชนและสังคมส่วนร่วมหรือไม่

 

  9.3 พิจารณาถึงบทบาทในทางสังคมและด้านต่าง ๆ ของผู้สมัครและพรรคที่สังกัดอย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเลือกตั้งทุกคนต้องปฏิบัติในหน้าที่ของพลเมือง 4 ประการ คือ

 

  (1) ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งทุกครั้ง

 

  (2) ชักชวนคนอื่นไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งโดยอิสระ    

 

  (3) สอดส่องดูแลไม่ให้มีการโกงเลือกตั้ง

 

  (4) หากรู้เห็นว่ามีการโกงเลือกตั้งหรือซื้อขายเสียงให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

 

10. หากประชาชนไม่ไปใช้ สิทธิในการเลือกตั้งจะเสียสิทธิดังต่อไปนี้

 

      ในการที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 21  หรือมาตรา 22  หรือ แจ้งเหตุแล้วแต่เหตุนั้นมิใช่เหตุอันสมควรให้ถือว่าผู้นั้นเป็นบุคคลซึ่ง ไม่ไปเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทําให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ได้ตามมาตรา 68วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญให้ผู้นั้นเสียสิทธิดังต่อไปนี้ 

 

10.1 กรณีส.ส. สว.

 

         10.1.1 สิทธิยื่นคําร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น

 

         10.1.2 สิทธิร้องคัดค้านการเลือกกํานันและผู้ใหญ่บ้าน ตามกฎหมายว่า

ด้วยลักษณะปกครองท้องที่

 

         10.1.3 สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมาชิกวุฒิสภาผู้บริหาร ท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น

 

         10.1.4 สิทธิสมัครรับเลือกเป็นกํานันและผู้ใหญ่บ้าน ตามกฎหมายวา

ด้วยลักษณะปกครองท้องที่

 

         10.1.5 สิทธิเข้าชื่อร้องขอเพื่อใหรัฐสภาพิจารณากฎหมายตามกฎหมาย

ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย

 

         10.1.6 สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น

 

         10.1.7 สิทธิเข้าชื่อร้องขอเพื่อให้วุฒิสภามีมติถอดถอนบุคคลตากฎหมายประกอบรัฐ ธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตการเสริมสร้างความรู้เกี่ยว กับประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนในองค์กรปกครอง

ส่วนท้องถิ่น

 

         10.1.8 สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหาร

ท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

 

          การ เสียสิทธิตามวรรคหนึ่ง ให้มีกําหนดเวลาตั้งแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ผูนั้นไม่ไปใชสิทธิเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้งครั้งที่ผู้นั้นไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

 

    10.2 กรณีไม่ไปเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นจะเสียสิทธิดังนี้

 

         10.2.1 สิทธิยื่นคําร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารทองถิ่น

 

         10.2.2 สิทธิร้องคัดค้านการเลือกกํานันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่า

ด้วยลักษณะปกครองท้องที่

 

         10.2.3 สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น

 

         10.2.4 สิทธิสมัครรับเลือกเป็นกํานันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่

 

         10.2.5 สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้สภาท้องถิ่นพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น

 

         10.2.6 สิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตาม กฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียง เพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น

bottom of page